“นินจาแวน” โชว์คลังสินค้าแห่งใหม่ ย่านบางเสาธง พื้นที่ใช้สอยกว่า 20,000 ตร.ม. คัดแยกสินค้าได้มากกว่า 8 แสนชิ้นต่อวัน
บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย จำกัด ผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เผยคลังสินค้า ย่านบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดของนินจาแวน ประเทศไทย ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว่า 20,000 ตารางเมตร สามารถรองรับปริมาณพัสดุได้มากกว่า 800,000 ชิ้นต่อวัน
มร. เพียซ เอิง กรรมการบริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท นินจาแวน ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า นินจาแวน เป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุสำหรับธุรกิจทุกขนาดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครอบคลุมทั้งหมด 6 ประเทศ คือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทย สำหรับตลาดในประเทศไทย นินจาแวนมุ่งเน้นให้บริการธุรกิจ SME โดยทำให้การจัดส่งพัสดุเป็นเรื่องง่าย และช่วยเหลือลูกค้าทั้งรายเล็กและรายใหญ่อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของธุรกิจ SME ให้ดียิ่งขึ้น ภายใต้สโลแกน “หมดห่วง ทุกเรื่องพัสดุ” โดยนินจาแวนได้เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยราวกลางปี พ.ศ.2563 ด้วยเห็นโอกาสในการทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ขนส่งพัสดุจากพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นทำให้ปริมาณพัสดุสูงขึ้นไปด้วย จึงตัดสินใจลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเพราะเชื่อว่าในระยะยาว การตัดสินใจของลูกค้าว่าจะใช้บริการขนส่งพัสดุสินค้าจากบริการของเครือข่ายใดนั้นจะขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างขนส่งและลูกค้าและการประทับใจการบริการที่ส่งสินค้าได้ไว พัสดุได้รับไม่เสียหาย และขณะนี้ นินจาแวนเป็น 1 ใน 5 อันดับแรกของธุรกิจขนส่งพัสดุด่วนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็น 1 ใน 3 อันดับแรกของตลาดเพื่อนบ้านอย่างประเทศอินโดนีเซีย
สำหรับคลังสินค้าแห่งใหม่ของนินจาแวน นั้น ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วเมื่อต้นเดือนกันยายน พ.ศ.2565 ที่ผ่านมา โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะเป็นคลังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดของนินจากแวนประเทศไทย ตั้งอยู่ในย่านบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ สามารถรองรับปริมาณพัสดุได้มากกว่าคลังสินค้าเดิมถึง 30% หรือคิดเป็น 800,000 ชิ้นต่อวัน มีพื้นที่ใช้สอย ภายในคลังสินค้ามากกว่า 20,000 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบในรูปแบบ I-shape มีสายพานลำเลียงพัสดุ 4 กิโลเมตร ทำให้จัดส่งได้เร็วขึ้นถึง 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นการลำเลียง พัสดุแบบเป็นเส้นตรง และแยกไลน์เส้นทางการเดินพัสดุ โดยแบ่งออกเป็นขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดสินค้าเสียหาย และระยะเวลาในการคัดแยกสินค้า เพิ่มความสามารถใน การทำงานขึ้นถึง 200%
นอกจากนั้นยังเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการคัดแยกพัสดุด้วยสายพาน ลำเลียงกึ่งอัตโนมัติที่มีความยาว 4 กิโลเมตร และมีท่ารถที่ใช้ในการเทียบท่าโหลดพัสดุมากกว่า 300 คัน ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของนินจาแวนในฐานะบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่ยังครอบคลุม ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงความมุ่งมั่นของนินจาแวนที่พร้อมจะลดความยุ่งยากจากการจัดส่ง ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
มร. เพียซ เอิง กล่าวว่า นินจาแวนได้มีการพัฒนาโดยนำระบบ Dim Weigh System หรือระบบการวัดขนาดพัสดุแบบบูรณาการ ที่สามารถวัด ชั่งน้ำหนัก ถ่ายรูป และคัดแยกพัสดุได้พร้อมกันด้วยอัตราปริมาณ 92,000 ชิ้นต่อชั่วโมง มีการนำระบบการเชื่อมต่อการเช็คสถานะของพัสดุได้แบบทันที (Real Time) ซึ่งสามารถให้ข้อมูลพัสดุที่ต้องการจัดส่งได้อย่างไร้รอยต่อโดยที่ผู้ส่งและผู้ซื้อสามารถเช็คสถานะอัปเดตได้ทันที โดยใช้เวลาในการจัดส่งในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเพียง 1 วัน ส่วนจังหวัดอื่นๆ จะใช้เวลา 2-3 วันเท่านั้น
ทั้งนี้ นินจาแวนได้เปิดแฟรนไชส์ “Ninja Points” ปัจจุบันมีทั้งหมดกว่า 16,000 สาขา โดยร่วมมือกับ “SABUY Group” เปิดหน้าร้านให้มีจำนวนครอบคลุมพื้นที่เพิ่มทั่วประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานของลูกค้าให้มีความสะดวกรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ จะมีพนักงานของนินจาแวนที่มีกว่า 200 คนเข้ากะในช่วงเวลากะเย็นเวลาประมาณ 15.00 เป็นต้นไป เพื่อคัดแยกสินค้าในคลังสินค้าเต็มพื้นที่ ช่วยกันคัดแยกสินค้าและพัสดุให้แล้วเสร็จเพื่อส่งต่อถึงมือผู้รับให้เร็วที่สุด
นินจาแวนยังจัดทำโปรโมชันต่างๆ เช่น โปรแกรมสะสม คะแนนสำหรับผู้ส่งพัสดุ Ninja Rewards สำหรับสมาชิกที่จัดส่งพัสดุน้อยกว่า 100 ชิ้นต่อวัน เพื่อแลกรับของรางวัล เช่น ส่วนลด อุปกรณ์จัดส่งพัสดุ และสิทธิประโยชน์อื่นๆ แถมมีกิจกรรมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อมัดใจลูกค้า อีกทั้งมีการออกแคมเปญ Effortless ประกันการจัดส่งแก่ผู้ส่ง และผู้ซื้อสินค้า ในการส่งสินค้าและพัสดุที่มีมูลค่า เช่น ทองคำ มือถือ โดยนินจาแวนจะทำประกันความเสียหายให้แก่ผู้จัดส่งเพื่อป้องกันการสูญหายและจ่ายค่าชดเชยในการจัดส่งให้หากสินค้าที่จัดส่งที่มีมูลค่าเสียหายตามกฎหมายขนส่งของประเทศไทยด้วยรวมถึงการเพิ่มฟังก์ชันใหม่ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวก และ ลดความยุ่งยากจากการจัดส่งพัสดุให้แก่ลูกค้าในอนาคตเพิ่มเติม
